รู้ได้อย่างไรว่าน้องหมาของเราตั้งท้องแล้ว
น้องหมาเพศเมียได้รับการผสมพันธุ์ ไม่เสมอไปที่น้องหมาทุกตัวจะตั้งท้อง บางครั้งการสังเกตอาการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ซึ่งอาจไม่สามารถบอกได้ว่า น้องหมาของเราจะท้องจริง ๆ เพราะน้องหมาสามารถเกิดท้องเทียมได้เหมือนกัน หรือไม่แน่ก็อาจจะแค่อ้วน อึไม่ออกมานาน กำลังเป็นท้องมานอยู่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขของเราตั้งท้องจริง วันนี้ จะขอรวบรวมวิธีการตรวจการตั้งท้องในสุนัขวิธีต่าง ๆ มาเล่าให้เพื่อนได้อ่านกันครับ ตามมาเลย...
การตรวจการตั้งท้องในสุนัข
สำหรับการตรวจท้องน้องหมาทำได้หลายวิธี และแต่ละวิธีก็จะมีความแม่นยำแตกต่างกันออกไปซึ่งก็ขึ้นกับความชำนาญของผู้ตรวจแต่ละคน เรามาไล่ดูกันไปในแต่ละวิธีกันเลย
1 การสังเกต
วิธีนี้จะต้องอาศัยผู้ตรวจที่มีประสบการณ์พอสมควร เป็นวิธีที่ง่ายสามารถทำได้เองที่บ้านจากการสังเกต เมื่อสุนัขตั้งท้องได้ราว 35-45 วัน ท้องสุนัขจะเริ่มขยายใหญ่ น้ำหนักแม่สุนัขจะเพิ่มขึ้น ส่วนอาการอื่น ๆ ที่สามารถสังเกตพบได้ในสุนัขตั้งท้องก็คือ จะมีเต้านมขยายใหญ่ขึ้น หัวนมมีสีชมพูมากขึ้น อาจมีน้ำนมไหลในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะคลอด สุนัขจะกินอาหารได้ปริมาณต่อมื้อลดลง แต่จะกินบ่อยขึ้น เพราะมดลูกที่ขยายใหญ่ไปกดเบียดกระเพาะอาหารได้ แต่อย่างที่บอกไป ว่าอาการบางอย่างเหล่านี้ สามารถพบได้ในสุนัขที่เกิดภาวะท้องเทียมได้เช่นกัน
2 การคลำตรวจ
ผู้ตรวจจะต้องมีประสบการณ์สูง สามารถคลำตรวจได้เมื่อสุนัขตั้งท้องไปแล้ว 30-35 วันขึ้นไป มดลูกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ทำได้ยากถ้าน้องหมาเกร็งท้องไม่ให้ความร่วมมือ จะค่อนข้างคลำตรวจยากมาก อาจต้องรอให้ตั้งท้องสัปดาห์ท้าย ๆ จะคลำง่ายขึ้น
3 การตรวจเลือดด้วยชุดตรวจ
การใช้ชุดตรวจฮอร์โมนรีแลกซินที่สร้างมาจากรก ทำให้มีความจำเพาะต่อการตั้งท้อง แต่ฮอร์โมนนี้จะตรวจได้ก็ต่อเมื่อสุนัขได้ตั้งท้อง 23-27 วัน มีความแม่นยำขึ้นกับระยะเวลาที่ทำการตรวจด้วย วิธีนี้จะต้องทำการเจาะเลือดสุนัขไปตรวจ โดยใช้ชุดตรวจคล้ายกับการตรวจการตั้งครรภ์ของคน ซึ่งหากสุนัขสุนัขตั้งท้องก็จะขึ้นแถบสี 2 ขีด
4 การอัลตร้าซาวด์
การอัลตร้าซาวด์เป็นการตรวจที่ได้ผลแม่นยำพอสมควร การตรวจแบบนี้จะสามารถพบเห็นหัวใจของลูกได้ เห็นการเคลื่อนไหวของลูกในท้อง นอกจากนี้ยังสามารถให้ประเมินกำหนดวันคลอดของตัวอ่อนได้ด้วย ลูกสุนัขที่ใกล้คลอดจะมีอัตราการเต้นของหัวใจช้าลงใกล้เคียงกับสุนัขปกติ
5 การเอ็กซเรย์ (ถ่ายภาพรังสี)
ในการตรวจการถ่ายภาพรังสีหรือเอ็กซเรย์ เป็นวิธีที่แนะนำและเหมาะสมเพราะจะสามารถตรวจทราบว่าลูกสาวของเราท้องหรือไม่ และถ้าทำการตรวจในช่วงเวลาที่เหมาะสม นอกจากจะทำให้ทราบว่าสุนัขตั้งท้องจริงหรือไม่ ยังสามารถบอกจำนวนของลูกสุนัขในท้องได้ แต่บอกได้ว่าลูกสุนัขมีโอกาสคลอดยากหรือไม่จากการดูขนาดของกะโหลกหัวลูกสุนัข เทียบกับขนาดของเชิงกรานของแม่สุนัข เพื่อพิจารณาว่าต้องผ่าคลอดหรือไม่
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ใช้สำหรับตรวจการตั้งท้องในสุนัข บางครั้งอาจต้องใช้การตรวจหลาย ๆ วิธีร่วมกัน เพื่อจะได้ประเมินได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น การเอ็กซเรย์และอัลตร้าซาวด์ นอกจากกจะบอกได้ว่าท้องหรือไม่แล้ว ยังใช้ในการประเมินได้ว่า ต้องผ่าคลอดหรือไม่ได้ด้วย