สัญญาณเตือนว่าสุนัขของท่านอ้วนเกินไปหรือไม่
เมื่อพูดถึงความอ้วน ไม่ใช่ปัญหาแค่สำหรับคนนะ แต่ยังโรคอ้วนก็ยังเป็นปัญหากับน้องหมาด้วยนะเดี๋ยวนี้น้องหมาที่เป็นโรคอ้วนสามารถพบได้บ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเจ้าของบางท่านมักมองว่าสุนัขอ้วนน่ารัก หรือรู้สึกใจอ่อนทุกครั้งเมื่อสุนัขของตนเองขออาหารกินจึงไม่สามารถควบคุมอาหารได้ บางท่านมีการให้อาหารของคนซึ่งมีปริมาณไขมันสูง เช่น อาหารทอด ขนมขบเคี้ยว หรือผลไม้ เช่น ทุเรียน เป็นต้น
โรคอ้วนในน้องห้ามคืออะไร
โรคอ้วนเป็นความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสม มีการสะสมไขมันในร่างกายที่มากเกินไป อีกทั้งโรคอ้วนยังส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย วันนี้เรามี 5 สัญญาณเตือนที่ให้เจ้าของสังเกตว่าสุนัขของท่านอ้วนเกินไปหรือไม่
5 สัญญาณเตือนว่าน้องหมาอ้วนเกินไปหรือไม่
1. คุณสัมผัสซี่โครงของสุนัขของคุณไม่พบใช่หรือไม่ ?
การสังเกตจากกระดูกซี่โครงเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะดูว่าสุนัขของคุณอ้วนเกินไปหรือไม่ โดยการสัมผัสที่บริเวณด้านข้างของช่องอก หากมีไขมันหนามากในสุนัขอ้วน คุณจะสัมผัสไม่พบกระดูกซี่โครงนั่นเอง
2. สุนัขของคุณมักมีปัญหาหายใจลำบากหรือไม่ ?
สุนัขมักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบ เหนื่อยง่าย ไม่ทนต่อการออกกำลังกาย แสดงว่าสุนัขของคุณอาจมีปัญหาอ้วนเกินไปได้ ซึ่งในระยะยาว นอกจากปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ สุนัขอ้วนเหล่านี้อาจมีปัญหาเรื่องระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจ ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง และอาจเกิดหัวใจวายได้
3. สุนัขของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อย หรือท้องผูกบ่อยหรือไม่ ?
สุนัขที่เป็นโรคอ้วนจะมีปัญหาเรื่องระบบการย่อยและการขับถ่าย มักจะพบปัญหาท้องผูก เนื่องจากกินอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่เกิน และมีการเผาผลาญพลังงานน้อย ในการศึกษาพบว่าสุนัขที่กินอาหารประเภทไขมันมากเกินไปอาจเนี่ยวนำให้เกิดโรคตับอ่อนอักเสบตามมาได้
4. สุนัขของคุณมีปัญหาในกาiเคลื่อนไหวร่างกายหรือไม่ ?
น้ำหนักที่มากเกินไปจะส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อของกระดูกได้ เช่น โรคข้ออักเสบ และโรคข้อสะโพกหลุด เป็นต้น โรคดังกล่าวทำให้สุนัขเกิดความเจ็บปวด และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสุนัขได้ในระยะยาว
5. รูปทรงของสุนัขของคุณเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมใช่หรือไม่ ?
มองด้านข้างลำตัวสุนัข พบว่าบริเวณหัวไหล่กลมมน มีไขมันปกคลุม มองไม่เห็นกระดูกสันหลัง และคลำไม่พบกระดูกสันหลัง มีไขมันหนาบริเวณกระดูกเชิงกรานและมองไม่เห็นกระดูก มองไม่เห็นกระดูกซี่โครงและไม่สามารถคลำพบได้ บริเวณท้องย้อย มีไขมันสะสมมาก จากสาเหตุดังกล่าวพบว่าเมื่อมองจากทางด้านข้างลำตัวสุนัขจะคล้ายกับบล็อกของกล่องสี่เหลี่ยมนั่นเอง
การลดน้ำหนักในสุนัขต้องอาศัยความร่วมมือจากเจ้าของสุนัขทุกคนในบ้าน แนะนำให้อาหารสุนัขเป็นมื้อที่แน่นอน งดขนมที่มีพลังงานสูงในระหว่างวัน การลดปริมาณอาหารต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรลดปริมาณอาหารลงทันที เพื่อให้สุนัขได้ค่อยๆปรับตัว สุนัขจะไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์เหมือนคน บางตัวอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปีในการลดน้ำหนัก นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว ยังต้องการการออกกำลังกายที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญคือ ต้องทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอด้วยนะ เพื่อสุขภาพที่ของน้องหมาสุดรัก
![น้องหมาอาจเจียน สัญญาณสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม!](https://www.thaipedigree.com/static/articles/cb2a46a5e6d0b37eefdd42f759974ae0a82854c2a693fb917aca6515526e3243.jpeg)
![อย่า....รู้ไหมให้น้องหมากินอาหารที่มีเชื้อรา ทำตับ-ไต พัง!!!](https://www.thaipedigree.com/static/articles/1efc8c81f0cde6a796da13e4b9551baadd89277787018eadcd7fc94135555af8.jpeg)
![7 สัญญาณที่บอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วย](https://www.thaipedigree.com/static/articles/7b6800b7eac3ced48186ce00ea7477d48d202dd158653279c92a218e3511e3be.jpeg)
![รู้ไหมหมาก็เป็นกรดไหลย้อนได้](https://www.thaipedigree.com/static/articles/d36a14680124548900585c1bb117a304401e7986037edc1418b0da9054828009.jpeg)
![เชื้อพาร์โวไวรัสในสุนัข อันตรายกว่าที่คุณคิด](https://www.thaipedigree.com/static/articles/ec999e41a6ca3cb51dcbf703873d3a4bbcc6a054a938ce1433417b1de2144348.jpeg)