ไข้หัดสุนัข รักษาอย่างไรไม่ให้อันตรายถึงชีวิต





ไข้หัดสุนัข รักษาอย่างไรไม่ให้อันตรายถึงชีวิต

ไข้หัดสุนัขที่น้องหมาเป็นจะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา คือมีอาการซึม อ่อนแรง ไม่กินอาหาร แต่บอกเลยว่าไข้หัดอันตรายกว่ามาก หากสุนัขไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายกับน้องถึงขั้นเสียชีวิต เรามาทำความรู้จักโรคนี้กันว่าหากสุนัขติดแล้วควรรักษาอย่างไร แล้วมีวิธีไหนที่จะป้องกันไม่ให้สุนัขของเราติดโรคหัดได้

ไข้หัดสุนัข เป็นโรคติดต่อร้ายแรงของสุนัข และเป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็น RNA virus ทำให้เกิดโรคได้ในสุนัขและสัตว์อื่นที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับสุนัข เช่น สุนัขป่า มิ้งค์ สกั๊งค์ แรคคูน และเฟอร์เร็ท ซึ่งสัตว์เหล่านี้มักจะเป็นตัวพาหะนำโรคมาสู่สุนัขที่เราเลี้ยงกันภายในบ้าน

อาการของโรค

1.มีไข้สูง ซึม อ่อนแรง เบื่ออาหาร พบได้ในระยะแรกที่มีการฟักตัวของโรค

2.มีน้ำมูก เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง ตาแฉะ มีขี้ตา น้ำตาไหล ไอ จาม หายใจลำบาก ถ้าพบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน น้ำมูกน้ำตาที่พบก็จะมีลักษณะขุ่น

3.ระบบทางเดินอาหาร มักจะพบว่าสุนัขอาเจียนและท้องเสีย แต่อาการจะไม่รุนแรงเหมือนการติดเชื้อลำไส้อักเสบ

4.ระบบผิวหนัง สุนัขจะมีตุ่มหนองกระจายตามตัว โดยจะพบมากบริเวณใต้ท้อง นอกจากนั้นในสุนัขที่มีการติดเชื้อแบบเรื้อรังจะพบว่าผิวหนังบริเวณอุ้งเท้าจะหนาตัวขึ้นมากกว่าปกติ

5. มีอาการกล้ามเนื้อกระตุก ปากกระดุก หัวกระตุก ชัก ร้องครวญคราง  ควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองไม่ได้ อาการที่พบบ่อย ๆ คือสุนัขจะเกร็งและงับปากระบบประสาท เมื่อเชื้อไวรัสกระจายเข้าสู่ก้านสมอง สมอง และไขสันหลัง จะทำให้สุนัขไม่รู้สึกตัว

การรักษา

1.ให้ยาปฎิชีวนะ เพื่อควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

2.ให้น้ำเกลือและสารอาหารเข้าทางหลอดเลือดดำเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและสารอาหาร

3.ให้ออกซิเจนในกรณีที่สุนัขมีอาการหายใจลำบากหรือขาดออกซิเจนเนื่องจากเกิดอาการปอดบวม

4.ให้ยาสงบประสาทหรือยาแก้ชักในกรณีที่สุนัขมีอาการทางประสาทจากการที่เชื้อไวรัสเข้าสู่สมอง

การป้องกัน

1.แยกเลี้ยงสุนัขที่ไม่ทราบประวัติวัคซีนประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนนำมาเข้ากลุ่มกับเพื่อนสุนัขตัวอื่น

2. โดยในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนานำวัคซีนไข้หัดสุนัขไปร่วมกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น ลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ โรคฉี่หนู หวัด หลอดลมอักเสบ และพิษสุนัขบ้าฉีดวัคซีนลูกสุนัข ส่วนลูกสุนัขโดยทั่วไปจะฉีดวัคซีนได้อายุ 2 เดือน หลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ควรฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำเพื่อให้ระดับภูมิคุ้มกันสูงพอที่จะป้องกันโรคได้