กลิ่นตัวน้องหมา .....





กลิ่นตัวน้องหมา .....

วันนี้มีเรื่องจะนำมาเล่าสู้กันฟัง เป็นปัญหาใกล้ตัวสำหรับผู้เลี้ยงน้องหมาทุกท่านปัญหาที่ว่านี้ก็คือ “ กลิ่น ” กลิ่นของน้องหมานี่แหละ กลิ่นที่อยู่บนตัว กลิ่นที่ไปติดตามเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เสื้อผ้าของเราเมื่อผ่านการเล่นด้วยกันกับสุนัขตัวโปรดนั่นเอง กลิ่นเหล่านี้

หลายท่านอาจจะเคยชินจนไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา แต่สำหรับบางคนกลิ่นนี้สร้างความรำคาญได้ไม่น้อยที่เดียวครับ วันนี้เลยจะขอมาเล่าสู่กันฟัง...

เรื่องธรรมชาติของกลิ่นตัวสุนัข

ต้องเข้าใจก่อนว่าน้องหมาทุกตัวมีกลิ่นตัวและกลิ่นของแต่ละตัวไม่เหมือนกัน เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของสุนัขแต่ละตัวเลยก็ว่าได้ครับ ใช้สำหรับบ่งบอกเขตแดน หรือพื้นที่ของแต่ละตัว หรืออาจเรียกได้ว่ากลิ่นนั้นเปรียบเสมือนลายเซ็นเฉพาะตัว แต่มีเพียงสุนัขด้วยกันเท่านั้นที่สามารถแยกออก เนื่องมาจากการพัฒนาของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการดมกลิ่นและสมอง  แต่ในคนที่ได้กลิ่นเราจะไม่สามารถแยกได้นะครับ ส่วนใหญ่มักจะบอกว่ากลิ่นน้องหมาแต่ละตัวก็เหมือน ๆ กันนั่นเอง

 กลิ่นตัวของสุนัขออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. กลิ่นโดยธรรมชาติ

2. กลิ่นที่เกิดจากความผิดปกติของผิวหนัง

กลิ่นประเภทที่ 1 กลิ่นโดยธรรมชาติ

 คือ กลิ่นที่ถูกเกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่เกิดได้กับน้องทุกตัว เพราะน้องหมาไม่สามารถที่จะขับเหงื่อได้เหมือน แต่จะสามารถขับออกได้ในบางบริเวณ เช่น อุ้งเท้า ซึ่งมีรูขุมขนอยู่ ในรูขุมขนนี้เองเป็นที่อยู่ของต่อมชนิดหนึ่ง เรียกว่า apocrine gland เป็นต่อมที่เรายังไม่ทราบหน้าที่ที่ชัดเจนของมัน ทราบแต่เพียงว่าต่อมนี้สามารถสร้างสารเคมีบางอย่างที่ใช้ในการสื่อสารกับสุนัขตัวอื่น ซึ่งสารที่ว่านี้ก็คือกลิ่นตัวของสุนัขแต่ละตัว

            นอกจากต่อมที่อุ้งเท้าแล้วยังมีอยู่ภายในช่องหูส่วนนอก ที่ทำหน้าที่สร้าง ear wax และจุลชีพที่อาศัยอยู่ภายในช่องหูจะเป็นตัวการที่ทำให้สารดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเล็กน้อย แม้ช่องหูจะสุขภาพดีก็ตาม

อีกที่สามารถสร้างกลิ่นได้ คือ ต่อมข้างก้นโดยปกติต่อมนี้จะสร้างสารคัดหลั่งที่มีกลิ่นที่รุนแรงแต่จะถูกขับออกมาพร้อมกับการบีบตัวของทวารหนักในเวลาอุจจาระ ดังนั้นเรามักจะสังเกตเห็นได้ว่าบางครั้งสุนัขจะทำการทักทายสื่อสารกันโดยการดมที่ก้นซึ่งจะมีกลิ่นที่ต่อมนี้ติดอยู่ 

กลิ่นประเภทที่ 2 กลิ่นที่เกิดจากความผิดปกติของผิวหนัง

            คือกลิ่นที่เกิดจากความผิดปกติที่อาจเกิดจากการที่สุนัขซึ่งไม่ได้รับดูแลเรื่องการแปรงขน หรืออาบน้ำอย่างเหมาะสมจากเจ้าของ ทำให้มีสิ่งสกปรกมาติดตามขนซึ่งมีไขมันเคลือบอยู่ เกิดกลิ่นเหม็นขึ้นได้โดยมักพบได้บ่อย ๆ ในสุนัขขนยาว หรือเกิดจากการป่วยเป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือโรคภูมิแพ้ที่ผิวหนัง  โดยเมื่อผิวหนังมีการติดเชื้อโรคในกลุ่มแบคทีเรีย หรือเชื้อยีสต์ เชื้อดังกล่าวจะเป็นตัวการทำให้กลิ่นตัวของสุนัขนั้นรุนแรงขึ้นจากกลิ่นเดิมนั่นเอง

            น้องหมาที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังแบบเรื้อรัง เจ้าของจะได้กลิ่นเหม็นเหล่านี้อยู่ตลอดเวลาจนแทบชินชาไปข้างหนึ่งกันเลยทีเดียว หรือน้องหมาบางตัวที่มีลักษณะที่ผิวหนังมีการม้วนพับ (skin fold) หรือน้องหมาหน้าย่น เช่น ชาไป่ หรือ บูลด็อก จะมีความไวต่อการที่เชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์จะเพิ่มจำนวนอยู่ภายในรอยพับเหล่านั้น ทำให้สามารถเกิดเป็นกลิ่นที่เหม็นกว่าปกติได้ และนอกจากนี้ในอวัยวะอื่น ๆ เช่น ช่องหู หากมีการติดเชื้อจนเกิดการอักเสบของช่องหู ก็จะทำให้มีการสร้างสารคัดหลัง หรือขี้หูที่ผลิตออกมามีกลิ่นที่รุนแรงได้เช่นกัน