สุนัขสายพันธุ์บาเซนจิ ผู้ซึ่งไม่เคยส่งเสียงเห่า

สุนัขสายพันธุ์บาเซนจิ ผู้ซึ่งไม่เคยส่งเสียงเห่า

เป็นเรื่องที่หลายคนทราบกันว่าหมากับเสียงเห่าหอนเป็นของคู่กัน บางตัวก็สุดโต่งเห่าทุกอย่างที่ขวางหน้า บางตัวก็เห่าแต่พองาม แต่ถ้าได้มาเจอกับพันธุ์ “บาเซนจิ” ก็อาจทำให้คุณสงสัยว่าจริงๆ แล้วน้องเห่าเป็นไหม เพราะมันแทบไม่ส่งเสียงเห่าเลย จึงได้ฉายาว่า “น้องหมาที่ไม่เคยเห่า”

ความจริงแล้วสุนัขบาเซนจิ สามารถส่งเสียงได้เช่นเดียวกับสุนัขทั่วไป แต่เสียงจะส่งเสียงหอนเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญบาเซ็นจิจะไม่เห่าเหมือนสุนัขบ้านทั่วไป แต่จะเพียงแค่คำรามสั้น ๆ ในลำคอเท่านั้น หากรู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายที่เข้ามาใกล้

ถิ่นกำเนิด และความเป็นมา

บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์แอฟริกเป็นสุนัขล่าเนื้อ มีต้นกำเกิดตั้งแต่สมัยยุคฟาโรห์ เชื่อกันว่าสายพันธุ์ของบาเซ็นจินี้มีมานานกว่าพีระมิดเสียอีก แต่อารยะธรรมตะวันตกเพิ่งค้นพบสุนัขสายพันธุ์บาเซ็นจิในราวปี ค.ศ.1985 ในดินแดนคองโก

ลักษณะทั่วไป

ลักษณะทั่วไปของบาเซนจินั้นเป็นสุนัขขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว หลังตรง รูปร่างกระทัดรัดเทียบกับสุนัขล่าเนื้อชนิดอื่น หางม้วนเป็นวงกลม หน้าแหลม หูแหลมชี้ตั้ง สูงประมาณ 40-43 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม และมีลักษณะพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นตัว และไม่เห่า สีขนที่มีและเห็นบ่อย น้ำตาล-ขาว หรือ สีน้ำตาล-แดง

อุปนิสัย

บาเซ็นจิเป็นมีความร่าเริง ฉลาด สง่างาม และมีความสามารถรอบตัวสูง พวกมันเป็นสุนัขที่รักษาความสะอาด ชอบเลียขนรักษาความสะอาดให้ตัวเองราวกับแมวเลยทีเดียว จึงทำให้มันเป็นสุนัขที่ไม่มีกลิ่นตัว และยังสามารถฝึกการขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย พวกมันรักอิสระ จึงไม่ชอบให้ใครมาบังคับขู่เข็ญ นอกจากนี้ บาเซ็นจิเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับทุกคนในครอบครัว รวมทั้งเด็ก ๆ โดยหากสัญญาณอันตรายเข้ามาใกล้ มันจะยิ่งปกป้องเด็กเล็กมากกว่าปกติด้วย

การดูแลและปัญหาสุขภาพของสายพันธุ์

อาหารที่ให้สุนัขบาเซ็นจิควรเป็นอาหารของคน ควรควบคุมปริมาณอาหาร และจำนวนมื้อให้เหมาะสม รวมถึงหมุนเวียนวัตถุดิบที่นำมาทำอาหาร เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน และหลากหลาย

ขน: ไม่ต้องคอยแปรงขน และไม่ต้องอาบน้ำให้บ่อย ๆ เพราะว่าบาเซ็นจิจะใส่ใจความสะอาดของตัวเองมาก โดยบาเซ็นจิจะใช้อุ้งเท้าทำความสะอาดให้ตัวเอง

บาเซ็นจิมักมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขาดเม็ดเลือดแดง โรคเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ โรคจอรับภาพเสื่อม โรคไตจากกรรมพันธุ์ ซึ่งต้องคอยติดตามดูอาการที่อาจกำเริบได้ทุกเมื่อ

สำหรับใครที่ต้องการมีบาเซ็นจิไว้เป็นเพื่อนก็ควรต้องมีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกายทุกวัน เนื่องจากมันเป็นน้องมีความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉงสูง และต้องการการเคลื่อนไหว จึงต้องมีบริเวณให้มันได้วิ่งเล่น นอกจากนี้ บาเซ็นจิยังเป็นสุนัขที่ชอบเคี้ยว แทะ เป็นอย่างมาก ดังนั้นการหาของเล่นให้เขาได้แทะเล่นจึงเป็นสิ่งที่ควรจะทำ